เติมน้ำมันผิด เสียค่าซ่อมเท่าไหร่? คำแนะนำที่ต้องรู้ก่อนจะสายเกินไป!

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1764586502558 1764586502558

(เครดิตรูปภาพ: freepik)


การเติมน้ำมันผิดประเภทเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้กับผู้ใช้รถทุกคน โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถหลายคันหรือรีบเร่งในสถานการณ์ต่างๆ การเติมผิดประเภท ไม่ว่าจะเป็น “เติมเบนซินลงในรถดีเซล” หรือ “เติมดีเซลลงในรถเบนซิน” ล้วนมีผลกระทบต่อระบบเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์แตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมเกิดขึ้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายหมื่นเลยทีเดียว

เติมน้ำมันผิดแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องยนต์

หากเป็นการเติมเบนซินลงในรถดีเซล ความเสียหายมักรุนแรงกว่า เนื่องจากระบบดีเซลต้องอาศัยการหล่อลื่นของน้ำมันดีเซล แต่เบนซินกลับทำให้ชิ้นส่วนโลหะภายในแห้ง เกิดการเสียดสีและทำให้ปั๊มแรงดันสูงหรือหัวฉีดชำรุดได้อย่างรวดเร็ว รถอาจสตาร์ตไม่ติด เครื่องกระตุก หรือดับกลางทางได้ ส่วนการเติมดีเซลลงในรถเบนซิน แม้จะอันตรายน้อยกว่า แต่ก็ทำให้เครื่องยนต์สะดุด เดินไม่เรียบ เกิดการเผาไหม้ที่ผิดปกติ และอาจทำให้หัวเทียนเสียหายได้เช่นกัน

ต้องซ่อมอะไรบ้างหลังจากเติมน้ำมันผิด

การซ่อมขึ้นอยู่กับว่ารถได้ถูกสตาร์ตหรือไม่ หากยังไม่สตาร์ต ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด เพียงดูดและล้างถังน้ำมันก็เพียงพอ ค่าใช้จ่ายมักไม่สูง แต่ถ้าสตาร์ตรถไปแล้ว น้ำมันที่เติมผิดจะถูกส่งเข้าสู่ระบบเชื้อเพลิง ทำให้ต้องล้างระบบทั้งชุด ตั้งแต่ถังน้ำมัน ท่อส่ง กรองเชื้อเพลิง และหัวฉีด ในบางกรณีของรถดีเซล อาจต้องเปลี่ยนปั๊มแรงดันสูง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีราคาสูงที่สุด

ค่าใช้จ่ายในการซ่อม (ประมาณการ)

ราคาจะแตกต่างตามรุ่นรถและอู่ แต่เฉลี่ยแล้ว ดังนี้

เติมผิดแต่ยังไม่สตาร์ตรถ

  • ดูดน้ำมัน + ล้างถัง → 1,000 – 3,000 บาท

สตาร์ตรถและระบบได้รับผลกระทบเล็กน้อย

  • ล้างระบบเชื้อเพลิง + เปลี่ยนกรอง → 3,000 – 8,000 บาท

ความเสียหายรุนแรง โดยเฉพาะรถดีเซลโดนเบนซิน

  • ล้างระบบทั้งชุด → 5,000 – 10,000 บาท
  • เปลี่ยนหัวฉีด → 4,000 – 10,000 บาท/หัว
  • เปลี่ยนปั๊มแรงดันสูง → 20,000 – 60,000 บาท (บางรุ่นเกิน 80,000 บาท)

สรุป: ค่าเสียหายอาจเริ่มจากแค่หลักพัน ไปจนถึง หลักหมื่น–หลักแสน หากเครื่องยนต์เสียหายหนัก

ควรทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าเติมผิด

สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าสตาร์ตรถเด็ดขาด การไม่สตาร์ตช่วยลดโอกาสเกิดความเสียหายได้มหาศาล ต่อจากนั้นแจ้งพนักงานปั๊มและเรียกรถยกเพื่อพารถไปที่อู่หรือศูนย์บริการ ช่างจะทำการดูดน้ำมันออก ล้างระบบ และตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนใดได้รับผลกระทบหรือไม่

วิธีป้องกันไม่ให้เติมผิดอีก

การตรวจสอบสติ๊กเกอร์ประเภทน้ำมันที่ฝาถังทุกครั้งก่อนเติมเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด รวมถึงการหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนขณะเติมน้ำมัน เช่น การเล่นโทรศัพท์หรือคุยโทรศัพท์นาน ๆ หากเป็นรถเช่าหรือรถที่หลายคนใช้ร่วมกัน ควรติดป้ายกำกับเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความสับสน

สรุป

การเติมน้ำมันผิดอาจสร้างความเสียหายให้ระบบเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ได้มาก แต่หากรู้ทันและหยุดรถทันที ค่าใช้จ่ายมักจะต่ำมาก อย่างไรก็ตาม หากรถถูกสตาร์ตหลังจากเติมผิด ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางที่วิ่ง และอาจต้องจ่ายถึงหลักหมื่นในที่สุด ดังนั้นควรระมัดระวังทุกครั้งที่เติมน้ำมัน และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบประเภทน้ำมันก่อนทุกครั้ง

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น