
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
การเว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้าเป็นหนึ่งในหลักการขับขี่ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ดีที่สุด โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นหรือบนถนนต่างจังหวัดที่ต้องใช้ความเร็วสูง บทความนี้จะอธิบายว่าควรเว้นระยะห่างเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย พร้อมเหตุผลและเทคนิคที่นำไปใช้ได้จริงให้คุณ!
กฎ 3 วินาที: ระยะปลอดภัยมาตรฐานที่ควรรู้
มาตรฐานสากลแนะนำให้ใช้ “กฎ 3 วินาที” (3-second rule) คือ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าพอให้คุณนับ “1… 2… 3…” แล้วรถของคุณถึงจุดเดียวกับที่รถคันหน้าเพิ่งผ่านไป
ทำไมต้อง 3 วินาที?
เพราะระยะนี้ช่วยให้ผู้ขับมีเวลา
มองเห็นสถานการณ์ล่วงหน้า
ตัดสินใจได้ทัน
เบรกได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เสี่ยงชนท้าย
เมื่อไหร่ที่ควรเพิ่มเป็น 4–6 วินาที?
มีหลายสถานการณ์ที่ต้องเพิ่มระยะห่างมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย เช่น
ฝนตก ถนนลื่น – ควรเพิ่มเป็น 4–6 วินาที เพราะระยะเบรกจะยาวขึ้น
ขับเร็วกว่า 80–100 km/h – ต้องเพิ่มเวลาเพราะระยะหยุดรถยาวขึ้น
ทัศนวิสัยไม่ดี เช่น หมอก ควัน มืด
ตามหลังรถใหญ่ เช่น รถสิบล้อ เพราะบังทัศนวิสัย
ระยะห่างที่แนะนำตามความเร็ว (โดยประมาณ)
40–60 km/h → 12–18 เมตร
60–80 km/h → 18–24 เมตร
80–100 km/h → 24–36 เมตร
มากกว่า 100 km/h → อย่างน้อย 40 เมตรขึ้นไป
(ค่าประมาณเพื่อความเข้าใจ แต่การใช้กฎวินาทีแม่นยำกว่า)
เคล็ดลับเว้นระยะห่างให้ปลอดภัย
ใช้ “จุดสังเกตบนถนน” เช่น เสาไฟ ป้าย ถนน
หลีกเลี่ยงการขับจี้หรือกดดันคันหน้า
รักษาความเร็วสม่ำเสมอ ไม่เบรกกะทันหัน
หากเจอรถแทรก ให้ลดความเร็วและเว้นระยะใหม่
ตรวจสอบระบบเบรกและยางให้พร้อมเสมอ
สรุป
การเว้นระยะห่างระหว่างรถเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก กฎ 3 วินาทีคือเกณฑ์พื้นฐานที่ควรใช้ทุกครั้งที่ขับ และควรเพิ่มระยะเมื่อเจอสภาพถนนหรือสภาพอากาศไม่ปกติ เพื่อให้คุณและผู้ใช้ถนนคนอื่นปลอดภัยเสมอ
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…