เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต ต้องทำยังไง? อาการ สาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไข!

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1758278596367 1758278596367

(เครดิตรูปภาพ: autonation)

เครื่องยนต์คือหัวใจสำคัญของรถยนต์ แต่ก็เป็นส่วนที่เสี่ยงต่อความร้อนสูงผิดปกติได้ง่าย หากระบบหล่อเย็นมีปัญหา หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์ที่ “ความร้อนขึ้นสูง” หรือที่เรียกว่า เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต (Overheat) ซึ่งหากไม่รับมืออย่างถูกต้อง อาจทำให้เครื่องยนต์พังเสียหายหนักถึงขั้น “ยกเครื่อง” ได้เลย บทความนี้จะพาคุณไปดูว่าเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีตมีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร และควรแก้ไขอย่างไรนั่นเอง!

อาการของเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต

  1. เข็มวัดความร้อนพุ่งสูง เกินกว่าระดับปกติ
  2. ไฟเตือนความร้อนโชว์ บนหน้าปัด
  3. ไอน้ำหรือควันขาวพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง
  4. รถอืด เครื่องยนต์สะดุด หรือกำลังตก
  5. กลิ่นน้ำหล่อเย็นหรือกลิ่นไหม้ ลอยเข้ามาในห้องโดยสาร

สาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต

  • น้ำหล่อเย็นรั่วหรือไม่เพียงพอ ทำให้ระบบหล่อเย็นทำงานไม่เต็มที่
  • หม้อน้ำอุดตัน จากตะกรันหรือสนิม
  • พัดลมหม้อน้ำเสียหรือไม่หมุน ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้
  • ปั๊มน้ำหล่อเย็นชำรุด ทำให้น้ำไม่หมุนเวียน
  • เทอร์โมสตัทติดขัด ไม่เปิดให้น้ำหล่อเย็นไหล
  • ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็น ทำให้เกิดสนิมและการกัดกร่อน

สิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต

  1. หยุดรถในที่ปลอดภัยทันที และปิดแอร์ เพื่อช่วยลดภาระเครื่องยนต์
  2. ปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาสักครู่ แล้วดับเครื่อง ไม่ควรดับทันที เพราะความร้อนจะสะสม
  3. ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำทันที เพราะแรงดันไอน้ำอาจพุ่งออกมาและทำให้บาดเจ็บได้ ควรรออย่างน้อย 15-30 นาทีจนเครื่องเย็นลง
  4. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น หากต่ำสามารถเติมได้ แต่ควรใช้ “น้ำยาหล่อเย็น” ไม่ใช่น้ำเปล่า
  5. หากยังไม่หายหรือความร้อนขึ้นอีกครั้ง ควรเรียกรถยกและนำรถเข้าศูนย์บริการ ไม่ควรฝืนขับต่อ

วิธีป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต

  • ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ
  • เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นตามระยะที่คู่มือรถกำหนด
  • ตรวจเช็กหม้อน้ำ ท่อยาง และฝาหม้อน้ำว่ามีรอยรั่วหรือไม่
  • ตรวจสอบพัดลมหม้อน้ำและระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง
  • หมั่นบำรุงรักษารถตามระยะ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก

สรุป

เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีตเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์ หากเกิดขึ้น ควรรับมืออย่างใจเย็นและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ที่สำคัญคือการตรวจเช็กและบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ตั้งแต่แรกนั่นเอง

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: 10 เคล็ดลับดูแลรถให้ใหม่เหมือนออกจากโชว์รูม


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น